"เตียนอุย (ขุนพลพ่าย)" เขา.คือขุนพลที่พ่ายศึกใต้น้ำมือของซากทัพ เขา.คือบ่าวผู้สัตย์ซื่อที่ถูกตัดหัวด้วยมือของผู้ทรยศ เขา.ปราศจากทุกสิ่ง หนึ่งเดียวที่พอพึ่งพาได้ ก็มีเพียง "ความสัตย์ซื่อภักดี" ที่ใกล้เคียงกับความดื้อรั้น ผู้ภักดีคือผู้เคารพนบนอบจากใจ เขาจึงคุ้นกับการพึมพำกับตนเอง รับฟังเสียงร่ำร้องจากใจอันภักดี ผู้สัตย์ซื่อ คือผู้เชื่อมั่น ทุกคำกล่าวเป็นคำสัตย์ ความเชื่อมั่นจึงไม่สั่นคลอน คำสั่งผู้เป็นนายไม่เคยสงสัย คำว่าสัตย์ซื่อภักดี ท่ามกลางโลกแห่งกลียุคนี้ ผู้คนต่างเอามาพูดจนติดปากมีเพียงเขาที่พิสูจน์มันด้วยชีวิต ภักดีด้วยความเชื่อมั่น สัตย์ซื่อด้วยชีวิต ต่อให้เผชิญศึกหมื่นพัน ข้าพร้อมฟันฝ่า หากว่า.การมีชีวิตคือความสัตย์ซื่อภักดีไซร้ เช่นนั้นแล้ว ความตายก็คือ. "หงสาจอมราชันย์ ภาคพิเศษ" นวนิยายที่จะนำผู้อ่านเดินทางไปยังแผ่นดินจีนในยุคที่ร้อนระอุดั่งดินแดนแห่งเปลวเพลิง บ้านเมืองปั่นป่วนไปด้วยศึกสงครามมากฝักฝ่าย เหล่าผู้นำแย่งชิงความเป็นใหญ่ในแว่นแคว้นท่ามกลางความวุ่นวายแห่งกลียุค ปวงประชาต่างมุ่งหวังให้วีรชนปรากฏกาย เหล่าทหารกล้าต่างเฟ้นหาขุนพลที่จะก้าวสู่อำนาจสูงสุดและนำทัพสู่ชัยชนะ เตียนอุย มือสังหารผู้มีความสามารถจดจำและแยกแยะได้อย่างเหนือชั้น ใช้ชีวิตเร้นกายอยู่ในเงามืดของกาลเวลา รอคอยเจ้านายที่คู่ควรแก่การมอบสัตย์ซื่อภักดีด้วยชีวิต เป็นตัวละครที่ถูกบันทึกรายชื่อในบรรดารายชื่อจอมพลแห่งยุคสามก๊ก "เล่าปี่" มี "กวนอู" เป็นยอดขุนพลผู้ซื่อสัตย์ข้างกายฉันใด "โจโฉ" ก็มี "เตียนอุย" เป็นองครักษ์ผู้พลีกายอยู่เคียงข้างฉันนั้น แต่ความภักดีของเตียนอุยต่างออกไป เขาไม่ผูกมัดความซื่อสัตย์ไว้ที่ใครคนใดคนหนึ่ง และมีวิธีการตอบแทนความสัตย์ซื่อจงรักภักดีที่ไม่ใช่เพียงสละชีวิต แต่อุทิศทั้งหัวใจและจิตวิญญาณให้แก่ผู้เป็นนาย "หวังอี๋ซิง" ตีประเด็นความน่ายกย่องนับถือของตัวละครได้ละเอียดอ่อนลึกซึ้งถึงหัวใจของตัวละคร ด้วยภาษาที่วิจิตรงดงาม ประกอบกับฝีมือการแปลของ "ม.ประภา" ผู้มีสำนวนภาษาตราตรึงด้วยลูกเล่นอันล้ำเลิศ เรื่องของเตียนอุยในเล่มนี้จึงสะท้อนให้เห็นคุณค่าของมนุษย์ในอีกรูปแบบหนึ่งได้อย่างชัดเจนและกินใจ โดยเฉพาะนิยามของ "ความซื่อสัตย์ภักดี" ที่ไม่ว่าจะเป็นคนดีหรือคนร้าย หากยึดมั่นในข้อนี้ได้ก็นับว่าเป็นผู้มีคุณธรรมคนหนึ่ง!